PENTOR CAPITAL

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

(เวอร์ชั่น 1.2 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565)

ผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้ ”) ตกลงใช้บริการแอปพลิเคชันFinX (“แอปพลิเคชัน ”) หรือชื่ออื่นที่บริษัท FinX จำกัด (“บริษัท ”) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพิจารณาเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยตกลงผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการแอปพลิเคชันFinX (“ข้อกำหนดและเงื่อนไข ”) ดังต่อไปนี้

  1. คำนิยาม

1.1. “ข้อมูลส่วนบุคคล ”หมายความถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น) ข้อมูลการทำธุรกรรม และ/หรือข้อมูลใด ๆ ของผู้ใช้ ที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้แก่บริษัท หรือที่บริษัทได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

1.2. “เครื่องมือเพื่อการทำรายการ ”หมายความถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และ/หรือ เครื่องมืออื่นใดตามที่บริษัทกำหนด เพื่อการทำรายการ

1.3. “บริการ ”หมายความถึง บริการบนแอปพลิเคชัน ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ รวมถึงบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่บริษัทจะเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้เพิ่มเติมในภายหน้า

1.4. “บริษัท ”หมายความถึง โดย บริษัท FinX จำกัด และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่บริษัทมอบหมายด้วย

1.5. “รายการ ”หมายความถึง คำขอ คำสั่ง หรือธุรกรรมต่าง ๆ ที่กระทำผ่านระบบ หรือบริการ

1.6. “รหัสประจำตัว ”หมายความถึง บัญชีผู้ใช้ (Login Name หรือ Username), รหัสผ่าน (Password), รหัส PIN (PIN –Person Identification Number), ลายนิ้วมือ, ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ภาพใบหน้า เป็นต้น) (Biometric), รหัสผ่านเพื่อใช้งานอุปกรณ์เพื่อการทำรายการ, รหัส OTP –One Time Password รวมถึงรหัสอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใด ๆ และไม่ว่าจะเป็นรหัสที่บริษัทเป็นผู้กำหนดให้ หรือเป็นรหัสที่ผู้ใช้เป็นผู้กำหนดเองก็ตาม   

1.7. “เหตุสุดวิสัย” หมายความถึง เหตุใด ๆ อันอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการ รวมถึงเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดข้อง หรือข้อมูลผิดพลาด เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทหรือระบบสื่อสารขัดข้อง เพราะกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หรือปัญหาด้านพลังงาน การกระทำของบุคคลภายนอก ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เป็นอันตรายต่างๆ (Harmful Data)

  1. ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป

2.1. ผู้ใช้รับรองว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ได้กรอกเพื่อลงทะเบียนนั้น เป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง โดยสมัครใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อตนเองเท่านั้น มิได้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นใด

2.2. ผู้ใช้รับรองว่าผู้ใช้สามารถทำนิติกรรมได้ตามกฎหมาย โดยเป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมาย หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำ การแทน หรือได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถทำนิติกรรมใด ๆ บนแอปพลิเคชันได้โดยลำพังแล้ว

2.3. ผู้ใช้รับทราบว่าในการใช้บริการบางประเภทบนแอปพลิเคชันนั้นอาจมีการจำกัดคุณสมบัติในการทำนิติกรรมหรือรายการ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงของบริษัท โดยผู้ใช้สามารถศึกษาคุณสมบัติของบริการแต่ละประเภทได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการนั้น ๆ

  1. การใช้และการเก็บรักษารหัสประจำตัว ข้อมูลส่วนบุคคล และเครื่องมือเพื่อทำรายการ

3.1. ผู้ใช้จะต้องกำหนดรหัสประจำตัวและข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนตามรูปแบบและวิธีการที่บริษัทกำหนด รวมถึงต้องรักษารหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นความลับ และไม่เปิดเผยหรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ผู้อื่นทราบรหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยการทำรายการใด ๆ ผ่านรหัสประจำตัวและ/หรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้นั้น บริษัทถือว่ารายการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นโดยการดำเนินการของผู้ใช้หรือได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ และผู้ใช้ตกลงที่จะไม่โต้แย้งความถูกต้องสมบูรณ์ของรายการดังกล่าว

3.2. ในกรณีที่ผู้ใช้กำหนดอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อทำรายการ หรือใช้งานวิธีการยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ใช้ต้องไม่ทำให้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวตกอยู่ภายใต้การครอบครองของบุคคลอื่น

3.3. ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแปลงรหัสประจำตัวเมื่อใดก็ได้ โดยดำเนินการตามวิธีการและเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด โดยในกรณีที่ผู้ใช้เชื่อว่ามีบุคคลอื่นล่วงรู้รหัสประจำตัวของตน ผู้ใช้ควรเปลี่ยนแปลงรหัสประจำตัวในทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

3.4. กรณีที่ผู้ใช้ลืมรหัสประจำตัว หรืออุปกรณ์เครื่องมือนั้นชำรุดหรือสูญหาย ผู้ใช้ต้องดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดเพื่อเปลี่ยนรหัสประจำตัว และ/หรืออุปกรณ์เพื่อทำรายการใหม่ ทั้งนี้ ผู้ใช้ยอมรับว่าการทำธุรกรรมใด ๆ หรือการใช้บริการผ่านรหัสประจำตัวของผู้ใช้ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนรหัสประจำตัวใหม่นั้น ให้มีผลผูกพันผู้ใช้และผู้ใช้ตกลงรับผิดชอบทุกประการ

3.5. ในบางกรณี รหัสประจำตัวอาจถูกส่งไปยังที่อยู่หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้แก่บริษัท ผู้ใช้จึงมีหน้าที่ต้องจัดการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และผู้ใช้รับทราบว่าการปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่เป็นปัจจุบันนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเกิดกรณีที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่เหตุการณ์ดังกล่าวอันเนื่องมาจากการที่ท่านไม่ปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน

  1. ความสมบูรณ์ของการใช้บริการ หรือธุรกรรม และผลผูกพันผู้ใช้

4.1. ผู้ใช้ตกลงยอมรับว่าวิธีการดำเนินการใด ๆ โดยผ่านบริการของบริษัทตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้เป็นวิธีการที่น่าเชื่อถือและยอมรับได้ระหว่างผู้ใช้และบริษัท รวมทั้งรับรองว่าเอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้ด้วยวิธีการดังกล่าวนั้นเป็นเอกสารและ/หรือ ข้อมูลที่เชื่อถือได้และถูกต้องแท้จริง และใช้บังคับได้ระหว่างผู้ใช้ บริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ บริษัทไม่ต้องตรวจสอบข้อมูล และ/หรือ รายละเอียดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการการใช้บริการในครั้งนั้น ๆ ว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ด้วย

4.2. ผู้ขอใช้บริการรับรองว่า ภาพถ่าย ข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น ภาพใบหน้า เป็นต้น) เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลใด ๆ ที่บริษัทได้รับ และ/หรือจะได้รับในภายหน้าจากผู้ใช้ผ่านบริการ เป็นข้อมูลของผู้ใช้ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการ โดยผู้ใช้ตกลงยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบฐานข้อมูลของบริษัท เพื่อประโยชน์ในการให้บริการของบริษัท และ/หรือ การใช้ทำธุรกรรม และ/หรือ ใช้บริการอื่น ๆ ของผู้ใช้กับบริษัท ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทจะได้แจ้งในขณะเก็บ รวบรวม หรือใช้ข้อมูลนั้นหากข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง

4.3. ในกรณีที่ภาพถ่าย ข้อมูลทางชีวภาพ เอกสาร และ/หรือ ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ไม่เป็นจริง หรือไม่เป็นปัจจุบัน ผู้ใช้ตกลงให้บริษัทมีสิทธิไม่ให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกการทำธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการ และ/หรือบริการอื่นใด เมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น

4.4. ผู้ใช้ตกลงและยอมรับว่าการกระทำใด ๆ ผ่านบริการของบริษัท ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการใช้บริการประเภทใด ๆ ก็ตาม หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสประจำตัวตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้แล้ว ให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์และผูกพันผู้ใช้ทุกประการ 1  2  โดยผู้ใช้ไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น และผู้ใช้ตกลงรับผิดชอบการกระทำดังกล่าวเสมือนหนึ่งว่าผู้ใช้เป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยผู้ใช้หรือบุคคลใด และไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ ผู้ใช้ตกลงว่าการใช้รหัสประจำตัวถือเป็นการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย

4.5. ผู้ใช้ยินยอมให้ถือว่าบรรดาเอกสาร และ/หรือ หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมตามบริการต่าง ๆ (ถ้ามี) ของผู้ใช้ และ/หรือเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท ซึ่งบริษัทได้จัดทำขึ้นตามความประสงค์ของผู้ใช้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ มีความถูกต้องและผูกพันผู้ใช้ทุกประการ

4.6. ผู้ใช้ตกลงยินยอมให้บริษัทตรวจสอบและสอบทานข้อมูลที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทกับหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน หรือองค์กรอื่นใด เพื่อประกอบการสมัครใช้บริการหรือการให้บริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความมีอยู่ของบัญชีหรือสถานะการเป็นสมาชิกของผู้ขอใช้บริการกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) หรือแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบการพิจารณาให้บริการของบริษัท

4.7. ผู้ใช้ตกลงชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกี่ยวกับการใช้บริการตามอัตราและเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด

4.8. ในกรณีที่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นแก่บริษัท และ/หรือ บุคคลใด ๆ เนื่องจากการให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ตามความประสงค์ของผู้ใช้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ โดยมิใช่ความผิดของบริษัท หรือในกรณีที่ผู้ใช้ใช้บริการ เพื่อกิจการใดซึ่งขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น ทำรายการเพื่อชำระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับซื้อขายอาวุธ หรือสนับสนุนการก่อการร้าย ผู้ใช้ตกลงยินยอมรับผิดชอบชดใช้บรรดาค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกประการ รวมถึงตกลงให้บริษัทมีสิทธิระงับ ยับยั้ง ยกเลิก หรือเพิกถอนรายการหรือการดำเนินการใด ๆ ของผู้ใช้ที่ขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนด้วย

4.9. ผู้ใช้ตกลงให้บริษัทมีสิทธิเพิ่ม เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ รวมทั้งค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้บริการแต่ละประเภทที่บริษัทเปิดให้บริการผ่านระบบของบริษัทได้ตามแต่จะเห็นสมควร โดยผู้ขอใช้บริการตกลงผูกพันปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ และ/หรือ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้บริการ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกประการ โดยในกรณีที่การเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงนั้นจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้บริการของผู้ใช้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าโดยการประกาศไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือ แจ้งไปยังผู้ใช้ผ่านทางแอปพลิเคชัน และ/หรือ อีเมล และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร ไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ เว้นแต่กรณีที่เป็นการดำเนินการใด ๆ อันจำเป็นเพื่อระงับหรือป้องกันความเสียหายแก่ผู้ให้บริการ เช่น การดำเนินการในกรณีผู้ใช้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข 1  หรือมีการกระทำอันเชื่อได้ว่ามีการใช้บริการผิดวัตถุประสงค์ หรือข้อมูลที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้นั้นไม่เป็นความจริงหรือไม่เป็นปัจจุบัน หรือความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ใช้มีการเปลี่ยนแปลงไป อนึ่ง หากการเพิ่ม หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวเป็นผลให้ผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับแจ้งการคัดค้านการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศในเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือ แจ้งไปยังผู้ใช้ และหลังจากระยะเวลาดังกล่าวนั้นผู้ใช้ยังคงใช้บริการต่อไป ให้ถือว่าผู้ขอใช้บริการยินยอมและไม่มีข้อคัดค้านข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ที่เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

4.10. ผู้ใช้ตกลงยอมรับผูกพันและปฏิบัติตามระเบียบ ข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงคู่มือ และเอกสารอธิบายวิธีการใช้บริการตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งผู้ใช้ได้รับหรือถือว่าได้รับไว้แล้วในวันที่ทำคำขอใช้บริการ รวมทั้งตามที่บริษัทจะได้กำหนดเพิ่มเติม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ซึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ด้วย 2

  1. การสมัครใช้บริการ

5.1. ผู้ใช้สามารถใช้บริการได้ผ่านทางแอปพลิเคชันบนเครื่องมือเพื่อทำรายการของผู้ใช้ ตามช่องทางและวิธีการที่บริษัทกำหนด รวมทั้งได้รับอนุมัติจากบริษัทให้เป็นผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ ผู้ใช้ตกลงผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการที่บริษัทกำหนดขึ้น และ/หรือ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการตามแต่ละฟังก์ชัน และ/หรือประเภทบริการที่ปรากฏขึ้นก่อน และ/หรือ ระหว่างที่ผู้ใช้ทำรายการ (ถ้ามี) และให้ถือว่าข้อตกลง ข้อกำหนด และเงื่อนไขการใช้บริการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ด้วย

5.2. ในการเข้าใช้บริการทุกครั้ง ผู้ใช้ต้องใส่รหัสประจำตัวให้ถูกต้อง พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขการใช้บริการที่บริษัทกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง

5.3. ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานบริการและฟังก์ชันต่างๆ ในแอปพลิเคชันดังต่อไปนี้ และ/หรือ ที่บริษัทจะกำหนดขึ้นในภายหน้า เพื่อทำรายการได้ตามขั้นตอน วิธีการ และเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดตามระยะเวลาที่บริษัทแสดงไว้ในข้อกำหนดของแต่ละบริการ

5.3.1. การใช้บริการเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ

(1) ผู้ใช้สามารถเลือกประเภทสินเชื่อและจัดทำคำขอสินเชื่อกับบริษัท รวมทั้งสามารถตรวจสอบสถานะการขอสินเชื่อ รายละเอียดสินเชื่อ และเลือกวิธีการชำระหนี้ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนดผ่านแอปพลิเคชัน หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่บริษัทจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า

(2) ผู้ใช้สามารถเรียกดู ขอ และ/หรือ บันทึก ใบแจ้งยอดชำระ (Billing Statement) ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนดผ่านแอปพลิเคชัน และสามารถดู ใบเสร็จรับเงิน (E-Receipt) ผ่านทางแอปพลิเคชันหรือผ่านทางอีเมลที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้ในคำขอสินเชื่อหรือผ่านทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่บริษัทจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า

(3) บริษัทจะดำเนินการแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระหนี้ให้แก่ผู้ใช้ผ่านฟังก์ชันการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชัน หรือข้อความ (SMS) หรืออีเมล หรือตามวิธีการและช่องทางที่บริษัทกำหนด

(4) ผู้ใช้สามารถชำระหนี้ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนดผ่านแอปพลิเคชัน หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นใดที่บริษัทจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในภายหน้า

5.4. ผู้ใช้ตกลงและยอมรับว่า บริษัทจะส่งเอกสาร และ/หรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบริการให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงหนังสือและเอกสารใด ๆ ที่จำเป็นตามกฎหมาย เช่น หนังสือแจ้งการส่งข้อมูลให้แก่บริษัทข้อมูลเครดิต ผ่านทางแอปพลิเคชัน และ/หรือ อีเมล ที่ผู้ใช้ให้ไว้กับบริษัท ซึ่งได้ผ่านการยืนยันจากผู้ใช้ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนดแล้ว และ/หรือ โดยวิธีการอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควรเท่านั้น

  1. การยืนยันตัวตนและการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้

6.1. ในการสมัครใช้บริการแต่ละบริการนั้น บริษัทอาจกำหนดให้ผู้ใช้ต้องมีการยืนยันตัวตนตามเกณฑ์หรือระดับที่แตกต่างกัน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนการอนุมัติให้ใช้บริการ ซึ่งผู้ใช้รับทราบว่าการที่ผู้ใช้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตน หรือปฏิเสธการยืนยันตัวตนไม่ว่ากรณีใดและไม่ว่าในเวลาใด ๆ หรือการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็น อาจเป็นเหตุให้ผู้ใช้ถูกปฏิเสธการให้บริการ ระงับการใช้งานบัญชี หรือระงับการทำธุรกรรม ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ/หรือป้องกันความเสี่ยงตามนโยบายภายในของบริษัท

6.2. เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแล้ว บริษัทจะมีการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในขณะเก็บหรือรวบรวมข้อมูล และเป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่บริษัทประกาศผ่านช่องทางต่าง ๆ

  1. การเข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม

7.1. ในบางกรณี บริษัทอาจขอให้ผู้ใช้อนุญาตให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการให้บริการของบริษัท รวมถึงเพื่อประโยชน์ตามที่บริษัทจะได้ระบุในขณะขอความยินยอม โดยในกรณีที่บริการนั้นมีความสำคัญและจำเป็นต่อการให้บริการของบริษัท บริษัทอาจปฏิเสธการให้บริการแก่ผู้ใช้หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงข้อมูลของผู้ให้บริการบุคคลที่สามเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้

7.2. ผู้ใช้ตกลงให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลเท่าที่จำเป็นต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการยืนยันความยินยอมของผู้ใช้ต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สาม รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนทาง (Redirect) ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการบุคคลที่สามเพื่อให้ความยินยอมในระบบ (Environment) ของผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้น โดยผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้นอาจมีการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบย้อนหลัง

  1. การดำเนินการกรณีพบข้อผิดพลาด

ในกรณีที่ผู้ใช้พบว่ามีข้อผิดพลาดหรือมีความผิดปกติใด ๆ ในการใช้บริการ ผู้ใช้จะต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยเร็วที่ ศูนย์บริการลูกค้าบริษัท FinX หรือผ่านทางช่องทางบริการลูกค้าที่บริษัทเปิดให้บริการ โดยอย่างน้อยต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาที่ทำรายการ ข้อมูลผู้ใช้ และของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับการทำรายการที่มีข้อผิดพลาดดังกล่าวตามที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทและผู้ใช้จะร่วมมือกันดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบสวนหาสาเหตุของข้อผิดพลาด รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ใช้ทราบตามวิธีการและช่องทางที่บริษัทเห็นสมควร เช่น ทางโทรศัพท์ หรือ อีเมล หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่บริษัทจะได้กำหนดเพิ่มเติม

  1. ความรับผิดและข้อยกเว้นความรับผิดของบริษัท

9.1. บรรดาการกระทำใด ๆ ที่บริษัทได้กระทำไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และ/หรือ ตามข้อมูลที่ผู้ใช้ได้แจ้งต่อบริษัท และ/หรือ ตามคำร้องขอของผู้ใช้ และ/หรือ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการใด ๆ ของบริษัท ไม่ว่าที่มีอยู่แล้วในขณะนี้หรือที่จะมีขึ้นภายหน้า ให้มีผลผูกพันผู้ใช้ทุกประการ และบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้ และ/หรือ บุคคลใด ๆ ไม่ว่าจะโดยประการใดทั้งสิ้น เว้นแต่

(1) เกิดจากบริษัทจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่ปฏิบัติตามคำขอใช้บริการ หรือคำสั่งอายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวของผู้ใช้ และเกิดการทำรายการผ่านระบบหรือบริการของบริษัทขึ้น ทั้งนี้ ผู้ใช้จะต้องจัดส่งคำขอใช้บริการ และ/หรือ ข้อมูล และ/หรือ แจ้งขออายัดหรือระงับการใช้รหัสประจำตัวดังกล่าว โดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้แล้ว หรือ

(2) เกิดการทำรายการผ่านระบบหรือบริการของบริษัทโดยมิชอบ และมิใช่ความผิดของผู้ใช้

9.2. ในกรณีที่บริษัทได้ให้บริการ หรืองดเว้นการให้บริการใด ๆ แก่ผู้ใช้ เมื่อเกิดกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ผู้ใช้ตกลงว่า บริษัทไม่ต้องรับผิดต่อผู้ใช้ และ/หรือ บุคคลใดทั้งสิ้น

(1) ผู้ใช้ถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อกับบริษัท

(2) ผู้ใช้อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมาย

(3) บริษัทได้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงความขัดข้องของการให้บริการอยู่แล้วก่อนหรือในขณะทำรายการและ/หรือใช้บริการนั้น

(4) ผู้ใช้ตกเป็นผู้ผิดนัด หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือข้อตกลงใด ๆ ที่มีอยู่กับบริษัท

(5) มีเหตุทางกฎหมาย กฎระเบียบทางราชการ คำสั่งของศาล หน่วยงานของรัฐ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้บริการ หรือการให้บริการ หรือการเข้าทำรายการ หรือปฏิบัติตามข้อกำหนด และเงื่อนไขนี้

(6) เป็นเหตุสุดวิสัย

  1. การระงับ และ/หรือ การยกเลิกการให้บริการ

10.1. บริษัทมีสิทธิที่จะไม่ให้บริการ หรือระงับ หรือยกเลิกการให้บริการประเภทหนึ่งประเภทใด หรือทั้งหมดเมื่อใดก็ได้ โดยแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน เว้นแต่กรณีที่ผู้ใช้ผิดคำรับรองที่ได้ให้ไว้แก่บริษัท ไม่ปฏิบัติ หรือปฏิบัติผิดข้อตกลง ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใด ๆ ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ หรือเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ หรือสัญญาใด ๆ ที่ผู้ใช้มีต่อบริษัท หรือกรณีที่บริษัทเห็นว่าการดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ หรือกิจกรรมหรือการทำธุรกรรมใด ๆ ของผู้ใช้อาจเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการหรือการทำรายการในที่ขัดต่อพฤติการณ์ปกติ หรือโดยทุจริต หรือโดยมิชอบไม่ว่าด้วยประการใด ๆ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใด ซึ่งไม่อาจแจ้งล่วงหน้าได้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบโดยเร็ว

10.2. เว้นแต่จะมีการกำหนดระยะเวลาเป็นการเฉพาะในข้อกำหนดเฉพาะของบริการแต่ละประเภท ในกรณีที่ผู้ใช้ประสงค์จะยกเลิกการใช้บริการ ไม่ว่าประเภทหนึ่งประเภทใดหรือทุกประเภทก็ตาม จะต้องให้บริษัททราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 15 (สิบห้า) วัน ผ่านทางอีเมล หรือวิธีการและช่องทางอื่นใดที่บริษัทจะได้กำหนดเพิ่มเติม

  1. การเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล

11.1. ในการใช้บริการของบริษัท บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ และ/หรือ ของบุคคลอื่นที่ผู้ใช้ได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามสัญญานี้ และวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท โดยผู้ขอใช้บริการสามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องที่บริษัทได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทที่

/assets/นโยบายการคุ้มครอง

และ/หรือ ช่องทางที่บริษัทกำหนด หรือตามที่บริษัทจะเปลี่ยนแปลงในภายหน้าและแจ้งให้ผู้ใช้ทราบโดยประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว และ/หรือช่องทางที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ใช้ได้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ผู้ใช้มีหน้าที่แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวด้วย

11.2. ผู้ใช้รับทราบและตกลงให้บริษัทสามารถบันทึกบทสนทนาระหว่างผู้ใช้กับบริษัท และ/หรือ จัดเก็บ และ/หรือ บันทึก และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ และ/หรือ รายการการใช้บริการ และ/หรือ การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงการบริการของบริษัท และ/หรือ เพื่อการใด ๆ อันเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และเพื่อเป็นหลักฐานการบริการ และรายการใช้บริการ โดยผู้ใช้ตกลงให้ใช้บันทึกการสนทนาและข้อมูลดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอ้างอิงต่อผู้ใช้ได้ตามกฎหมาย โดยผู้ใช้จะไม่โต้แย้งแต่ประการใดทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ บริษัทไม่มีหน้าที่ต้องบันทึกหรือเก็บรักษาบันทึกบทสนทนา และ/หรือ ข้อมูลดังกล่าว

11.3. ผู้ใช้ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ โดยให้ความยินยอมนี้ยังคงมีผลอยู่แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ทำธุรกรรมกับบริษัทต่อไปแล้วก็ตาม

(1) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

(ก) การจัดทำรายงานสินทรัพย์รวม

(ข) การดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับกระบวนการสินเชื่อ การวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารกิจการของบริษัท

(ค) ตรวจสอบรายการที่อาจจะเกิดการทุจริต ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย

(ง) ปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบของประเทศใด ๆ ที่ใช้บังคับกับบริษัท

(จ) ปฏิบัติตามเกณฑ์การกำกับดูแลในฐานะบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน

(ฉ) เปิดเผยต่อผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท สถาบันการเงิน หน่วยงานราชการ

(ช) การดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(2) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้า

(ก) ส่งต่อ เก็บ และประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการ Cloud Computing ที่บริษัทใช้บริการ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ   

(ข) เปิดเผยต่อผู้รับจ้างหรือผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้ใช้มีต่อบริษัท หรือผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่ของบริษัท   

(3) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่บริษัทจะได้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบเป็นครั้งคราวในอนาคต

  1. ข้อมูลการติดต่อและการส่งคำบอกกล่าว

12.1. เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนแปลงชื่อและนามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือ อีเมล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด จากที่ระบุไว้เดิมในการสมัครใช้บริการหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายหลังจากสมัครใช้บริการ ผู้ใช้จะต้องแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือโดยวิธีการและช่องทางอื่นใดที่บริษัทจะได้กำหนดเพิ่มเติม

12.2. เอกสารหรือหนังสือใด ๆ ที่บริษัทส่งไปยังผู้ใช้ ตามที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และ/หรือ อีเมล ตามที่ผู้ใช้แจ้งไว้ในการสมัครใช้บริการหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายหลังจากสมัครใช้บริการแล้ว ให้ถือว่าได้ส่งโดยชอบและผู้ใช้ได้ทราบข้อความในเอกสาร หนังสือ หรือข้อมูลนั้น ๆ แล้ว

  1. การโอนสิทธิ และการว่าจ้างหรือมอบหมายให้บุคคลภายนอกให้บริการ

13.1. สิทธิใด ๆ ของผู้ใช้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ ถือเป็นการเฉพาะตัวของผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้จะโอนสิทธิ หรือนำไปก่อสิทธิในทางหลักประกัน หรือดำเนินการโดยประการใดๆ ที่จะมีผลในลักษณะทำนองเช่นนั้นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทก่อน

13.2. ผู้ใช้ตกลงยินยอมให้บริษัทมีสิทธิว่าจ้าง และ/หรือ มอบหมาย และ/หรือ ดำเนินการใดๆ ให้บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นมาให้บริการส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับการให้บริการ รวมถึงโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่ของบริษัทตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ได้ ตามที่บริษัทเห็นสมควร

  1. กรณีที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการขัดหรือแย้งกัน

ในกรณีที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดเฉพาะของบริการแต่ละประเภทภายใต้บริการนี้ ให้บังคับใช้ตามข้อกำหนดเฉพาะของบริการแต่ละประเภทนั้น ๆ

  1. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้บริการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้